pic-heard
หน้าแรก พระเครื่อง บัตรรับรองพระแท้ ข่าวสาร บทความ เว็บบอร์ด เข้าชมร้านค้า
สถิติร้านค้า

6 ร้าน

216,436,014 คน

305 คน

2888 รายการ

รายละเอียดร้านค้า
ชื่อร้านค้า : วัต ท่าพระจันทร์
ชื่อเจ้าของร้าน : อนุวัต บูรณสัจจะ
เงื่อนไขการรับประกัน : แท้ มาตรฐาน.
สถานที่ตั้ง : ร้าน วัต ท่าพระจันทร์ พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 ห้องที่ 42
แผนที่ : ดูแผนที่
เบอร์โทร : 081-911-5544
อีเมล์ : watthaprachan@hotmail.com
รายละเอียดเลขที่บัญชี : ชื่อบัญชี อนุวัต บูรณสัจจะ ธนาคาร ธนาคารกสิกรไทย สาขา มาบุญครอง ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 7022529794
เว็บไซต์หน้าร้าน : http://www.easyamulet.com/user.php?user=5544
ส่งข้อความถึงเจ้าของร้าน : ส่งข้อความ 
จำนวนคนชม : 3382031 คน
หน้าแรก > วัต ท่าพระจันทร์ > ๐๗/๐๑/๒๕๖๕
๐๗/๐๑/๒๕๖๕
๐๗/๐๑/๒๕๖๕
ตะกรุดของหลวงพ่อปาน คลองด่าน

ผู้สร้าง : หลวงพ่อปาน
ออกที่ : วัดคลองด่าน
ปี พ.ศ :
ราคาสินค้า : ขายแล้ว บาท
พระเครื่องถูกบูชาแล้ว
สอบถามเพิ่มเติม

เจ้าของพระ : คุณอนุวัต บูรณสัจจะ
เบอร์โทร. : 081-911-5544

จำนวนคนชมรายการนี้. : 1327 คน.
รูปประกอบใบเซอร์
รายละเอียดสินค้า

@>>> ตะกรุดขลังดังมา ๑๐๐ปี สุดยอดความมันส์ สุดยอดงานถัก สุดยอดงานศิลป์ สุดยอดของความต้องการ สุดยอดความหายาก นั้นคือ ตะกรุดของหลวงพ่อปาน แห่งวัดบางเหี้ย หรือวัดคลองด่าน หรือวัดมงคลโคธาวาส ในปัจจุบันนั่นเอง.เสือท่านแพงแสนแพง(ก็บอกอยู่แล้วว่าแสนแพง_หลักแสนกลางขึ้นไปยันหลักล้าน) เงินอะมีแต่คิดจะประหยัดทุนทรัพย์ก็หันมาใช้ตะกรุดของท่านกัน เล่นง่าย ดูง่าย ศึกษาง่าย เพราะมีศิลปะเป็นเอกอุ(รูปแบบเฉพาะตัวคือมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร) บวกกับอายุความเก่าของรัก และเส้นเชือก ?ดอกนี้เชือกแทบจะกลายเป็นไม้?
 
*****ตะกรุดดอกนี้ศิลปะชัดเจน เรื่องความเก่า ไม่ต้องพูดถึง ดูได้จากอายุโลหะที่ม้วน เชื่อกที่ถัก รักที่ลง ๑๐๐ปี ขึ้นครับ แค่คิดจากปีที่หลวงพ่อปานท่านละสังขารปี พ.ศ.๒๔๕๔ นับจากวันที่ท่านละสังขารถึงตอนนี้ พ.ศ.๒๕๖๖ ก็ปาเข้าไป ๑๑๒ปีแล้ว อายุรัก+ลักษณะเชือกจึงมันส์แบบสุดๆ..... การันตี ความมันส์ ดูง่าย โปร่งใส ชัดเจน ครับผม !
สำหรับของชิ้นนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกซะจาก_ตะกรุดขลังดังมา๑๐๐ปี ของ หลวงพ่อปาน (พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ) วัดบางเหี้ย วัดคลองด่าน หรือวัดมงคลโคธาวาส อ.บางบ่อ สมุทรปราการ ของเรานั่นเอง. ดอกนี้เป็นตะกรุดแกนฝาบาตรเก่าค่ำคร่าจนผิวนอกกลายเป็นสีน้ำตาลเกือบทั้งดอก ผ่านการพกติดกายใช้บูชาคุณกันมา ผ่านประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาอย่างโชกโชน แต่ก็ยังทรงไว้ซึ่ง เอกลักษณ์ ความขลัง?จุดกำเหนิดของศรัทธา? ความมันส์ สะใจ ดูง่ายแบบสุดๆ

*****ในความบันทึกตอนหนึ่งด้านล่างของเสด็จพ่อ ที่นอกจากเรื่องเขี้ยวเสือแกะ ท่านยังเขียนบอกเป็นข้อแรกว่า คนที่ไปหาพระครูปาน ส่วนใหญ่จะเลื่อมใส ในคุณวิเศษ ให้ท่านลงตะกรุดให้

*****ต่อไปนี้เป็นบทความตอนหนึ่งที่เป็นบทความบันทึกในนิราศของ: พระปิยะมหาราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
***ทรงมีรับสั่งกับพระปานว่า ?ได้ยินชื่อเสียง และกิตติคุณมานาน เพิ่งเห็นตัววันนี้?
***แล้วรับสั่งถามต่อไปว่า ?ที่แจกเครื่องรางเป็นรูปเสือมีความหมายอย่างไร ??
***หลวงพ่อปานทูลตอบว่า ?ได้ไปรุกขมูลธุดงค์ในป่า พบเสือใหญ่หลายครั้ง ได้สังเกตดูเห็นว่า ?เสือ? เป็นสัตว์ปราดเปรียว ฉลาด ว่องไว เฉียบขาด มีตบะ และอำนาจ สามารถที่จะใช้ตาสะกดสัตว์อื่นให้อยู่ในอำนาจได้ คนทั่วไปเรียกผู้ร้ายใจฉกรรจ์ว่า ?ไอ้เสือ? ก็คือเอาความเก่งกาจของเสือมานั่นเอง การที่ทำเครื่องรางรูปเสือ มิใช่จะสนับสนุนให้คนกลายเป็น?อ้ายเสือ? เพียงแต่ต้องการเอาลักษณะของเสือจริงในป่า ที่ปราดเปรียว ว่องไว เฉลียวฉลาด เฉียบขาดมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น?

***พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯทรงพอพระทัยในคำตอบของพระปานยิ่งนัก (ด้วยท่านมิได้ โอ้อวดว่า เครื่องรางของท่านดีเด่น แต่ประการใด) ท่านทรงพระราชทานผ้าไตร และผ้ากราบ (ต่อมาได้พระราชทานสมณศักดิ์ เป็น ?พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ?)

***พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง?เสด็จประพาส มณฑลปราจิณ? ได้เล่าถึงพระปานไว้ว่า _?พระครูปานมาหาด้วย พระครูปานรูปนี้นิยมกันในทางวิปัสสนา และธุดงควัตร มีพระสงฆ์วัดต่างๆ ไปธุดงค์ด้วยสองร้อยสามร้อย แรกลงไปประชุมที่วัดบางเหี้ย มีสัปบุรุษที่ศรัทธาเลื่อมใสช่วยกันเลี้ยง กินน้ำจืดที่มีไว้เกือบจะหมดแล้วก็ออกเดิน ทางที่เดินนั้น ลงไปบางปลาสร้อย แล้วจึงเวียนกลับขึ้นไปปราจิณ นครนายก ไปพระบาท แล้วเดินลงมาทางสระบุรี ถ้ามาตามทางรถไฟ แต่ไม่ขึ้นรถไฟ เว้นแต่พระที่เมื่อยล้าเจ็บไข้ ผ่านกรุงเทพฯกลับลงไปบางเหี้ย ออกเดินทางอยู่ในแรมเดือนยี่ กลับไปวัดอยู่ในราวเดือนห้าเดือนหก ประพฤติเป็นอาจิณวัตรเช่นนี้มา ๔๐ ปีแล้ว

***คุณวิเศษที่คนเลื่อมใสคือ ?ให้ลงตะกรุด? ด้ายผูกข้อมือ รดน้ำมนต์ ที่นิยมกันมากคือ เขี้ยวเสือแกะเป็นรูปเสือ เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ข่าวที่ร่ำลือกันว่า เสือนั้นเวลาจะปลุกเสก ต้องใช้หมู ปลุกเสกเป่าไปข้อไร "ไม่ได้พิมพ์ผิด แต่เป็นคำจากตำนานในพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร" คือ ต้องใช้หมู ปลุกเสกเป่าไปข้อไร เสือนั้นกระโดดลงไปในเนื้อหมูได้ "น่าจะหมายความว่า พอปลุกเสกได้ที่เสือจะกระโดดกัดเนื้อหมู เป็นอันใช้ได้" ตัวพระครูเองเห็นจะได้ความลำบาก เหน็ดเหนื่อยในการที่ใครๆ กวนให้ลงโน่นลงนี่ เขาว่าบางทีก็หนีไปอยู่ในป่าช้า ที่พระบาทฯ (สระบุรี) ก็หนีไปอยู่บนเขาโพธิ์ลังกา คนก็ยังตามไปกวนไม่เป็นอันหลับอันนอน แต่บริวารเห็นจะได้ผลประโยชน์ ในการทำอะไรๆ ขาย เวลาแย่งชิงก็ขึ้นไปถึง ๓ บาท ว่า ๖ บาทก็มี ได้รูปเสือนั้นแล้วจึงไปให้พระครูปลุกเสก สังเกตดูอัธยาศัยเป็นคนแก่ใจดีมีกิริยาเรียบร้อย อายุ ๗๐ แล้วยังไม่แก่มาก รูปร่างล่ำสันใหญ่โต เป็นคนพูดน้อย มีคนมาช่วยพูด"

***จะเห็นว่า ในพระราชนิพนธ์ ?เสด็จประพาสเมืองปราจิณ? ได้เล่าถึง ?พระปาน? อย่างละเอียด สิ่งสำคัญยิ่งก็คือ เครื่องรางเขี้ยวเสือที่ทำเป็นรูปเสือ ในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ ราคาเช่าซื้อตัวละ ๑ บาทบ้าง ๓ บาทบ้าง ๖ บาทบ้าง ซึ่งเป็นราคาที่สูงมาก (ในสมัยนั้น กาแฟถ้วยละ ๑ สตางค์ ก๋วยเตี๋ยวชามละ ๓ สตางค์ ข้าวผัดจานละ ๕ สตางค์) หลังจากเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจ ก่อนที่ท่านจะเสด็จกลับเมืองหลวง พระองค์มีรับสั่งกับหลวงพ่อปานว่า ?ฟ้าไปก่อน แล้วให้พระท่านไปทีหลัง?

***พระราชดำรัสนี้ทำให้ทุกคนพิศวง เพราะไม่เข้าใจความหมาย (ยกเว้นหลวงพ่อฯ) แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี พระองค์ท่านก็เสด็จสวรรคต และต่อจากนั้นไม่ถึงปี หลวงพ่อปานก็มรณภาพลงเช่นกัน จึงสันนิษฐานว่าพระองค์อาจจะรู้ด้วยญาณ ว่าท่านและหลวงพ่อปาน อีกไม่กี่ปี ก็คงจะถึงเวลาที่จะละสังขารแล้ว และในเวลาที่ไม่ห่างกัน_นอกจากท่านเจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง ที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทรงให้ความสำคัญ มีการบันทึกถึงไว้ในตอนเสด็จประพาส เมืองฝรั่งเศษ และท่านให้ความเคารพ กราบไหว้ บูชาแล้ว ก็ยังมีหลวงพ่อปาน แห่งวัดคลองด่านนี้อีกหนึ่งองค์ ที่เสด็จพ่อรัชการที่๕ ให้ความสำคัญถึงขนาดมีการบันทึกถึงไว้ในพระราชนิพนธ์อีกเช่นกัน_เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการจดจำ_วัต ท่าพระจันทร์? (กรุณานำบทความออกไปพร้อมเครดิต)

พระเครื่องอื่น ๆ ในหมวด
จำนวนหน้า [ 1 ] [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ]