pic-heard
หน้าแรก พระเครื่อง บัตรรับรองพระแท้ ข่าวสาร บทความ เว็บบอร์ด เข้าชมร้านค้า
สถิติร้านค้า

6 ร้าน

216,435,837 คน

254 คน

2888 รายการ

ใบเซอร์พระ
รายละเอียดร้านค้า
ชื่อร้านค้า : วัต ท่าพระจันทร์
ชื่อเจ้าของร้าน : อนุวัต บูรณสัจจะ
เงื่อนไขการรับประกัน : แท้ มาตรฐาน.
สถานที่ตั้ง : ร้าน วัต ท่าพระจันทร์ พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 ห้องที่ 42
แผนที่ : ดูแผนที่
เบอร์โทร : 081-911-5544
อีเมล์ : watthaprachan@hotmail.com
รายละเอียดเลขที่บัญชี : ชื่อบัญชี อนุวัต บูรณสัจจะ ธนาคาร ธนาคารกสิกรไทย สาขา มาบุญครอง ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 7022529794
เว็บไซต์หน้าร้าน : http://www.easyamulet.com/user.php?user=5544
ส่งข้อความถึงเจ้าของร้าน : ส่งข้อความ 
จำนวนคนชม : 3382026 คน
หน้าแรก > วัต ท่าพระจันทร์ > ๒๕/๐๓/๒๕๖๔
๒๕/๐๓/๒๕๖๔
๒๕/๐๓/๒๕๖๔
พระปิดตาหลวงพ่อทา พิมพ์เกลอเดี่ยวเนื้อสัมฤทธิ์เงิน

ผู้สร้าง : หลวงพ่อทา
ออกที่ : วัดพะเนียงแตก
ปี พ.ศ :
ราคาสินค้า : ขายแล้ว บาท
พระเครื่องถูกบูชาแล้ว
สอบถามเพิ่มเติม

เจ้าของพระ : คุณอนุวัต บูรณสัจจะ
เบอร์โทร. : 081-911-5544

จำนวนคนชมรายการนี้. : 4015 คน.
รูปประกอบใบเซอร์
รายละเอียดสินค้า
@>>>โตงเตงโตงใต้ ใครคิดได้อยู่ใต้โตงเตง ...คืออะไร ไปอ่านกัน
พระปิดตาพิมพ์เกลอเดี่ยว เนื้อสัมฤทธิ์เงิน หลังยันต์ตะกร้อ เป็นพิมพ์มาตรฐานที่สุดนิยมสุด ของพระปิดตาหลวงพ่อทา พระองค์นี้มีทุกอย่างในมวลสารที่เนื้อสัมฤทธิ์เงินของหลวงพ่อทาพึงจะมี....แต่ถ้าองค์นี้เป็นของท่านเจ้าคุณเฒ่าแห่งวัดหนังคงต้องว่าราคากันที่หลัก 3ล้านขึ้นลง!
            
?????บทความต่อจากนี้เป็นการเขียนเพื่อเผยแผ่เกียรติคุณของครูบาอาจารย์ หลวงพ่อทา แห่งวัดพะเนียงแตก ซึ่งเป็นหนึ่งในพระเถราจารย์ที่ผม ?วัต ท่าพระจันทร์? มีของๆท่านติดกายไม่เคยห่างเคารพท่านสุดขั้วก้นบึ่งแห่งหัวใจ!!!..ทำไมลองไปอ่านกัน

?????พระครูอุตรการบดี (ทา) เป็นภิกษุชาวไทย มีชื่อเสียงในระหว่าง พ.ศ. 2386-2463 ความเฉียบขาดและความดุของท่านทำให้นักเลงและเสือร้ายเกรงกลัวมาก จนได้รับฉายาว่า "หลวงพ่อเสือ" บ้างก็เรียก "พ่อเสือกระเบนยอดด้วน" เนื่องจากท่านชอบถือหางกระเบนลงอาคมหรือที่เราเรียกว่ากระเบนยอดด้วนบ้างหรือกระเบนหางด้วนบ้างนั่นเอง วัตถุมงคลของท่านทุกๆชิ้นจะโดนชาวบ้านเก่าแก่ละแวกวัดเรียกว่า_"ของขลัง ที่มือปืนยังคร้ามเกรง" สมณศักดิ์สุดท้ายที่ "พระครูอุตรการบดี" ดำรงตำแหน่ง "เจ้าคณะแขวงรองเมืองนครไชยศรีและพระอุปัชฌาย์ทางตอนเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์ในสมัยรัชกาลที่ 5"

?????หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ท่านเติบโตที่ตำบลบ่อผักกูด อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี (ตำราบางเล่ม และนักเขียนบางท่านเข้าใจผิดลงไปว่าท่านเป็นชาวหนองเสือ ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ. นครปฐม แล้วเขียนบอกไว้ว่าบ้านหนองเสือ เป็นอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ?ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดครับ_วัต ท่าพระจันทร์?) ท่านเกิดเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2366 ในสมัยต้นรัชกาลที่ 3 เมื่ออายุ 6 ขวบ ท่านได้ศึกษาที่วัดโพธาราม (อันเป็นโรงเรียนเก่าของผู้เขียน วัต ท่าพระจันทร์ ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาตั้งแต่เด็กจนถึง ม.ศ.3 ในยุคนั้นก่อนที่ผมจะเข้ามาเรียน ม.ศ.4-5 ในเมืองหลวง) และท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปีที่วัดเดียวกัน ต่อมาเมื่อครบอายุบวช พ.ศ. 2386 จึงได้อุปสมบท ณ วัดบ้านฆ้อง (วัดบ้านฆ้อง ในอดีตเป็นสำนักปฏิบัติธรรมและพระกัมมัฏฐานที่มีชื่อเสียงมาก) ก็อยู่ใน อ.โพธาราม บ้านเกิดผมอีกเช่นกัน ปลื้มครับ :)

?????หลวงพ่อทา ภายหลังจากการอุปสมบทแล้ว ได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยจนมีความรู้อย่างแตกฉาน เมื่อเห็นสมควรแล้ว ได้ศึกษาและฝึกปฏิบัติพระกัมมัฏฐานควบคู่ไปกับการเรียนคาถาอาคมต่าง ๆ จนชำนาญ จึงกราบลาพระอาจารย์ ออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ กาลเวลาได้ล่วงเลยมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ที่หลวงพ่อทาได้ออกธุดงค์ จนกระทั่ง พ.ศ. 2417  ขณะนั้นท่านมีอายุ 51 ปี ได้เดินมาถึงบริเวณ ตำบลพะเนียงแตก หรือมาบแคในปัจจุบัน จังหวัดนครปฐม ซึ่งบริเวณนั้นเป็นพื้นที่รกร้างนอกเมือง ท่านได้ปักกรดพักแรมและทราบด้วยฌาณว่า บริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน หลวงพ่อทาจึงได้ออกเดินสำรวจโดยรอบ และได้พบระฆังใบใหญ่ใบหนึ่งมีอักขระขอมจารึกไว้ เป็นข้อความปริศนาว่า ?โตงเตงโตงใต้ ใครคิดได้อยู่ใต้โตงเตง ? ซึ่งท่านก็ตีความได้ไม่ยาก ครั้นพอท่านยกหงายระฆัง หรือฆ้องยักษ์นั้นขึ้นก็พบทรัพย์สมบัติอยู่มากมาย แสดงว่าเจ้าของทรัพย์ได้อธิษฐานมอบแก่ผู้มีบุญบารมี และมีจิตเป็นกุศลจึงจะสามารถพบเจอสมบัติ ซึ่งหลวงพ่อท่านก็ทราบเจตนารมย์ของเจ้าของสมบัติเป็นอย่างดีในนิมิตร ท่านจึงนำสมบัตินั้นไปสร้างวัดถึง 4 วัดด้วยกันคือ 1.วัดพะเนียงแตก 2.วัดบางหลวง 3.วัดเตาอิฐ และ4.วัดสองห้อง

?????หลวงพ่อทา แห่งวัดพะเนียงแตก ช่วงนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ได้รับการยอมรับนับถือกันอย่างกว้างขวาง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงทราบถึงกิติคุณดังกล่าว จึงรับสั่งโปรดเกล้าให้เข้าเฝ้าอยู่เสมอ หลวงพ่อทาก็เป็นเถราจารย์องค์หนึ่งที่พระองค์ท่านโปรดปราน ดังนั้นพระราชพิธีหลวงต่าง ๆ ท่านจะนิมนต์หลวงพ่อทาอยู่เสมอ ด้วยคุณงามความดีและความสามารถของท่าน ท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาเมื่อปีพ.ศ.2432(ร.ศ.108 )พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูอุตตรการบดี(เจ้าคณะแขวงเมืองนครไชยศรี หรือจังหวัดนครปฐมในปัจจุบัน)รักษาพระปฐมเจดีย์ทิศเหนือทรงโปรดให้เป็นรูปแรก เมื่อพลวงพ่อทาท่านมรณภาพ  ตำแหน่งพระครูอุตตรการบดีจึงตกแก่หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และหลวงพ่อสุข วัดห้วยจระเข้ ตามลำดับ

?????โดยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ และทรงแต่งตั้งพระเถระ 4 รูป เพื่อทำหน้าที่พิทักษ์ และเฉลิมพระเกียรติองค์พระปฐมเจดีย์ ประจำทั้ง 4 ทิศมีดังนี้คือ
01.พระครูอุตรการบดี ประจำทิศเหนือ โดยหลวงพ่อทา ได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์แรก และองค์ต่อมาคือ พระบุญ วัดกลางบางแก้ว และต่อมาคือ หลวงพ่อสุข วัดห้วยจระเข้
02.พระครูทักษิณานุกิจ ประจำทิศใต้ พระเถระที่เคยดำรงสมณศักดิ์นี้คือ หลวงพ่อเงิน วัดสรรเพชร และองค์ต่อมาคือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
03.พระครูปริมานุรักษ์ ประจำทิศตะวันออก พระเถระที่เคยดำรงสมณศักดิ์นี้คือ หลวงพ่อคต วัดใหม่สุประดิษฐ์ และองค์ต่อมาคือ หลวงพ่อคล้าย วัดศิลามูล
04.พระครูปัจฉิมทิศบริหาร พระเถระที่เคยดำรงสมณศักดิ์นี้คือ หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ และองค์ต่อมาคือ หลวงพ่อเกิด วัดงิ้วราย

@>>>การทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศในปี พ.ศ.2452

?????หลวงพ่อทา แห่งวัดพะเนียงแตก ท่าน เป็น 1ใน10 คณาจารย์ผู้มีพลังจิตสูงในปี พ.ศ.2452 ที่จังหวัดนครปฐมได้มีการชุมนุมพระอาจารย์จากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการทดสอบวิทยาคม และพลังจิตจากพระอาจารย์ทั่วประเทศที่ได้รับนิมนต์มาร่วมในพิธี 100กว่าองค์ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้จัดให้พระอาจารย์ที่โด่งดัง และเก่งเรื่องสมาธิจิตในจังหวัดตนเองนั้นเดินทางไปร่วมในงานพิธี โดยมีการทดสอบพระอาจารย์ต่างๆ ครั้งละ 10 องค์ มีสมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่บริเวณ วัดพระปฐมเจดีย์ ในการทดสอบครั้งนั้นมีกติกาว่าให้เอาท่อนไม้มา 1 ท่อน วางบนม้า 2 ตัว แล้วเอากบไสไม้วางไว้บนท่อนไม้ แล้วประธานฝ่ายสงฆ์จึงบอกกติกาว่า อาจารย์องค์ใดสามารถทำกบไสไม้ให้วิ่งไสไม้ไปกลับได้โดยกบไม่หล่นทำการทดสอบกันถึง 3 วัน 3 คืน พระอาจารย์ส่วนมากสามารถใช้จิตบังคับให้กบวิ่งไปได้ แต่กลับไม่ได้ ที่ทำให้กบไสไม้ไปกลับได้ มีด้วยกัน 10 รูป ในสิบรูปนั้นมีหลวงพ่อกลั่นเป็น 1ใน10 นั้นด้วย และในพระคณาจารย์ที่มีจิตญาณวิเศษสูงส่งทั้ง 10 ท่านที่กล่าวถึงคือ. 

?????หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก 
?????หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ 
?????หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว 
?????หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า 
?????หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง 
?????หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 
?????หลวงพ่อทอง วัดเขากบทวาศรี นครสวรรค์ 
?????หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย 
?????หลวงปู่ยิ้ม หนองบัว 
?????หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ ชุมพร
เป็นความรู้ที่ควรค่าต่อการศึกษา และจดจำนะเพื่อนเอย!_วัต ท่าพระจันทร์? (กรุณานำบทความออกไปพร้อมเครดิต)


พระเครื่องอื่น ๆ ในหมวด
จำนวนหน้า [ 1 ] [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ]