pic-heard
หน้าแรก พระเครื่อง บัตรรับรองพระแท้ ข่าวสาร บทความ เว็บบอร์ด เข้าชมร้านค้า
สถิติร้านค้า

6 ร้าน

205,210,537 คน

328 คน

2888 รายการ

รายละเอียดร้านค้า
ชื่อร้านค้า : วัต ท่าพระจันทร์
ชื่อเจ้าของร้าน : อนุวัต บูรณสัจจะ
เงื่อนไขการรับประกัน : แท้ มาตรฐาน.
สถานที่ตั้ง : ร้าน วัต ท่าพระจันทร์ พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 ห้องที่ 42
แผนที่ : ดูแผนที่
เบอร์โทร : 081-911-5544
อีเมล์ : watthaprachan@hotmail.com
รายละเอียดเลขที่บัญชี : ชื่อบัญชี อนุวัต บูรณสัจจะ ธนาคาร ธนาคารกสิกรไทย สาขา มาบุญครอง ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 7022529794
เว็บไซต์หน้าร้าน : http://www.easyamulet.com/user.php?user=5544
ส่งข้อความถึงเจ้าของร้าน : ส่งข้อความ 
จำนวนคนชม : 3358913 คน
หน้าแรก > วัต ท่าพระจันทร์ > ๑๘/๐๖/๕๓
๑๘/๐๖/๕๓
๑๘/๐๖/๕๓
หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ตะกรุดสาลิกานิ้วกว่าๆ ยุคต้นตัวจริงเสียงจริง!

ผู้สร้าง : หลวงพ่อทบ
ออกที่ : วัดชนแดน
ปี พ.ศ : ก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐
ราคาสินค้า : ขายแล้ว! บาท
พระเครื่องถูกบูชาแล้ว
สอบถามเพิ่มเติม

เจ้าของพระ : คุณอนุวัต บูรณสัจจะ
เบอร์โทร. : 081-911-5544

จำนวนคนชมรายการนี้. : 22693 คน.
รูปประกอบใบเซอร์
รายละเอียดสินค้า

     @>>>มาอีกแล้วครับพี่น้องตะกรุดสาลิกาหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ยุคต้นตัวจริงเสียงจริง! ใครอยากได้ขนาดเล็กๆ ยุคแรก รักแดงๆ แถมมีปิดทองเก่าๆ ลายถักเท่ห์ๆ หนึ่งเดียวครบสูตรแบบนี้เชิญ ครับ...อย่าช้า!
 “เล็กจริงแค่ ๑นิ้ว๖หุน” เป็นตะกรุดยุคต้นของท่าน พิเศษที่เป็นตะกรุดสาลิกามีขนาดเล็กมากๆแค่ ๑นิ้ว๖หุน ลงรักปิดทองเดิมๆ สภาพ๑๐๐% รักแด้งแดง เป็นรักจีนแดงจริงๆ (ถ้าไม่แดงเอาเงินคืนให้๑๐เท่า ฮะฮา) เป็นตะกรุดฟั้นเชือกธรรมดาตามสไตล์หลวงพ่อทบ แล้วขึ้นเสาเดียว แต่การขึ้นล๊อคและการจบเชือกของตะกรุดดอกนี้บอกได้เลยว่าหนึ่งเดียว เท่ห์มากๆ ลองเข้าไปดูรูปกันเองแล้วกันนะเพื่อนเอย.
     ตะกรุดสาลิกายุคต้น ขนาด ๑นิ้ว๖หุน ของหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ยุคต้น
ตะกรุดของหลวงพ่อทบผู้ที่ชื่นชอบตะกรุดเครื่องรางและสายานุศิษย์ของท่าน แบ่งให้เป็น ๓ ยุค คือยุคต้นท่านสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ลงไป ยุคกลางสร้างหลังปี พ.ศ.๒๕๐๐ไปจนมาถึงปี พ.ศ.๒๕๐๙ และยุคปลายสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๐-๒๕๑๙ ลักษณะและการพิจารณาตะกรุดหลวงพ่อทบจะสังเกตจากลักษณะชนิดของเชือก การถักเชือก ลายถัก โลหะที่ใช้ทำตะกรุด การลงรัก และการตีหัวตะกรุดทั้งสองด้าน นี้คือลักษณะการพิจารณาตะกรุดของหลวงพ่อทบ(หลัดเกณฑ์ดังกล่าวนี้เป็นพื้นฐานในการดูตะกรุดของทุกสำนัก และผู้ที่ชื่นชอบเครื่องรางจะต้องรู้เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว) ในที่นี้เราจะมาเอยถึงตะกรุดของท่านว่าทำไมถึงดูรู้ว่าเป็นยุคแรก ยุคต้นกัน อันดับแรกเรามาพิจารณา ถึงเส้นเชือกกันตะกรุดดอกนี้กันคือ

     ๑.เส้นเชือกที่นำมาถักเป็นเชือกปอเป็นเชือกที่ผลิตจากใยธรรมชาติ ซึ่งยุคกลางกับยุคปลายเป็นเชือกผสมไนล่อน(Nylon)และเชือกไนล่อน(Nylon)แบบล้วนๆ...

     ๒.เป็นตะกรุดอั่วสองชั้น(สองกษัตริย์)ที่เนื้อทองแดงและเนื้อตะกั่วรวมทั้งเส้นเชือกถักกอดรัดตัวจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันโดยธรรมชาติอายุความเก่า(แต่ที่เป็นทองแดงล้วนๆแผ่นหนาๆ หรือที่เป็นตะกั่วอย่างเดียวก็มีให้พบเห็นกันดังเช่นตะกรุดสาลิกาดอกนี้)...

     ๓.ลักษณะของรักที่ลง”ดอกนี้เป็นรักจีน”แดงมากเก่าถึงอายุดูมันส์มากๆ...

     ๔.รอยขึ้นและรอยจบการถักเชือกของตะกรุดทั้งสองด้านซึ่ง เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของตะกรุดยุคแรกๆของท่านคือพันผูกเป็นเงื่อนกันหลุดแล้วเอาส่วนปลายเชือกทั้งสองด้านยัดไว้ในแผ่นตะกั่วก่อนจะทุบแผ่นปลายตะกั่วให้ล๊อคเชือกตะกรุดทั้งสองด้านหัวท้ายและด้วยวันเวลาผ่านไปอายุความเก่ามาเยือนทำให้ปลายเส้นเชือกที่ยัดล๊อคไว้ในแผ่นตะกั่วรวมตัวกันจนเป็นเนื้อเดียวกัน “แต่ดอกนี้พิเศษตรงการขึ้นล๊อคและจบล๊อคเชือกของตะกรุดทำได้สวยมากๆคงจะเกิดจากจินตนาการและอารมณ์ในขณะนั้นของคนถัก แต่ขอบอกว่าเท่ห์มากๆและเป็นหนึ่งเดียว”ดังรูปของตะกรุดที่ผม”วัต ท่าพระจันทร์” บรรจงถ่ายมาหลายๆมุมให้เพื่อนๆทัศนากันตามอัธยาศัยนั่นแล นะเพื่อนเอย! เป็นความรู้เล็กๆครับ
     เรื่องราวอภินิหารของตะกรุดหลวงพ่อทบ ที่โด่งดังมากในสมัยหนึ่ง อย่างเมื่อคราวที่ภูหินร่องกล้า ทหารที่ไปรบก็เคยมีประสบการณ์จากพระเครื่องและตะกรุดของหลวงพ่อทบ ซึ่งถูกยิงจากผู้ก่อการร้ายแต่ยิงไม่เข้าอยู่หลายราย จนทำให้ตะกรุดของหลวงพ่อทบหายากขึ้น

หลวงพ่อทบท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๔ ณ บ้านหัวลม ตำบลนายม เพชรบูรณ์ โยมบิดาชื่อเผือก โยมมารดาชื่ออินทร์ หลวงพ่อทบท่านบวชเณรตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๔๐ ที่วัดช้างเผือก และอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๕ ที่วัดเกาะแก้ว บ้านนายม เพชรบูรณ์ โดยมีพระครูเมืองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปานเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สีเป็นพระอนุสาวนาจารย์

อุปนิสัยของหลวงพ่อทบท่านเป็นพระที่มีเมตตา สุขุมเยือกเย็น พูดน้อย หลวงพ่อทบท่านได้สร้างวัดและบูรณะวัดวาอารามไว้หลายวัดด้วยกันในแถบเพชรบูรณ์ หลวงพ่อทบท่านออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ มากมาย หลังจากนั้นท่านก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศิลาโมง วัดเสาธงทองเจริญธรรม วัดเกาะแก้ว วัดสว่างอรุณ วัดพระพุทธบาทเขาน้อย และวัดช้างเผือก เป็นต้น และทุกวัดที่หลวงพ่อทบท่านจำพรรษาอยู่ท่านจะบูรณปฏิสังขรณ์ จนวัดมีความเจริญรุ่งเรืองทุกวัด หลวงพ่อทบท่านมรณภาพในวันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อทบยังเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วภายในมณฑปตามเจตนาของท่าน มีประชาชนมามนัสการเป็นประจำมิได้ขาด

เรื่องอภินิหารตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบนั้นจะยกมาเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึ่ง คือในราวปีพ.ศ.๒๕๑๗ ตอนนั้นในอำเภอวิเชียรบุรี มีเรื่องพิพาทเกี่ยวกับที่ดินมาก ผู้ใหญ่ประเสริฐ ได้ถูกคุกคามจากผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง จะฮุบเอาที่ดินของผู้ใหญ่ประเสริฐ แต่ไม่สำเร็จ ผู้มีอิทธิพลคนนั้นจึงสั่งลูกน้องให้ฆ่าล้างครัว ผู้ใหญ่ประเสริฐจึงพาครอบครัวไปกราบมนัสการหลวงพ่อทบ พร้อมทั้งเล่าเรื่องต่างๆ ให้หลวงพ่อทบฟัง

หลวงพ่อทบท่านจึงได้ทำน้ำมนต์อาบให้ทุกๆ คน จากนั้นท่านก็มอบตะกรุดโทนให้กับผู้ใหญ่และลูกชาย ส่วนภรรยาและลูกสาวท่านได้มอบเหรียญรูปท่านกับสีผึ้งให้ไป ก่อนกลับผู้ใหญ่ได้ถวายเงินจำนวน ๕๐๐ บาทให้หลวงพ่อทบ แต่ท่านไม่รับ ท่านบอกผู้ใหญ่ว่า "เก็บเอาไว้เถอะยังมีความจำเป็นต้องใช้อีกมาก วันๆ ข้าไม่ใช้เงินอยู่แล้ว" จากนั้นท่านก็ให้พรผู้ใหญ่ และกำชับว่ากลางค่ำกลางคืนไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ แล้ว อย่าออกไปไหนเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายได้

เมื่อกลับจากวัดแล้ว ทุกคนต่างก็มีกำลังใจที่จะต่อสู้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ผู้ใหญ่ได้บอกกับลูกเมียให้ทำที่กำลังให้มั่นคง กลางคืนหากมีใครมาเรียกอย่าขานรับโดยเด็ดขาด ผู้ใหญ่กับลูกชายมีอาวุธครบมือ เพื่อรับกับเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น เวลาที่ผ่านมานานนับเดือนก็ไม่มีเหตุร้ายใดๆ อยู่มาวันหนึ่งแกรู้สึกตัวในตอนดึก และหิวน้ำจึงลุกขึ้นไปดื่มน้ำ สายตาของผู้ใหญ่ก็เห็นคนกำลังเดิมจะมาเปิดประตูขึ้นบ้าน ผู้ใหญ่จึงหยิบปืนลูกซองที่เตรียมไว้ยิงทันที เสียงปืนดังแชะ ผู้ใหญ่ยังไม่ละความพยายาม ขึ้นนกยิงอีกนัด เสียงปืนดังแชะเหมือนเดิม และแล้วบุรุษผู้มาในยามวิกาลได้ร้องขึ้นว่า "พ่อทำอะไรนะ ฉันเอง" เท่านั้นเองปืนลูกซองแทบหล่นจากมือ แกรีบเดินไปเปิดประตูและสวมกอดลูกชาย แล้วถามว่า "เอ็งหรอกหรือไอ้ทิด แล้วเอ็งออกไปทำไมตอนดึกดื่มเที่ยงคืนอย่างนี้" ลูกชายก็ตอบว่า "ฉันปวดท้องเบาจึงลุกไปฉี่ข้างนอก" ผู้ใหญ่ยกมือท่วมหัวแล้วพูดว่า "เป็นเพราะบารมีตะกรุดหลวงพ่อแท้ๆ ที่ช่วยไม่ให้พ่อต้องฆ่าลูกในไส้" ในตัวของลูกชายผู้ใหญ่มีตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบเพียงดอกเดียวเท่านั้น

เหตุการณ์ที่มีผู้ประสบเกี่ยวกับตะกรุดหลวงพ่อทบ ส่วนมากจะถูกยิงแต่กระสุนด้านเป็นส่วนมากครับ พวกทหารที่ไปรบที่เขาคล้อ ภูหินร่องกล้าต่างก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับตะกรุดของหลวงพ่อทบกันมาก ชาวเพชรบูรณ์ต่างก็ห่วงแหนตะกรุดของหลวงพ่อทบมากครับ_ขอขอบคุณข้อมูลชีวประวัติเพิ่มเติมจากพี่ชายที่แสนดี พี่หน่อย ท่าพระจันทร์ครับผม.

คลิก:ไปร้านแรกและร้านสอง.

http://www.thaprachan.com/shop.php?shop_id=430

 

http://www.thaprachan.com/shop.php?shop_id=1052

 

 อนุวัต บูรณสัจจะ(วัต ท่าพระจันทร์) 

 

 Best Regards,

พระเครื่องอื่น ๆ ในหมวด
จำนวนหน้า [ 1 ] [ 2 ] [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ]